วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรม microsoft word 2007

เมื่อได้เปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมาแล้ว จะปรากฏหน้าต่างของ โปรแกรม ซึ่งมีส่วนประกอบ ดังนี้
รูป แสดง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Word

  1. แท็บเครื่องมือ ด่วน
  2. ชื่อแฟ้มและ โปรแกรม
  3. แท็บ
  4. Ribbon
  5. แบบอักษร
  6. ไม้บรรทัด
  7. ตัวเปิดไม้บรรทัด
  8. ตำแหน่งพิมพ์หรือ เครื่องหมายจบ
  9. แท็บเลื่อน
  10. มุมมอง/ย่อขยาย
  11. แท็บสถานะ
จากปุ่มเมนูด้านบน สามารถ อธิบายได้ดังนี้
6.2.1 แท็บชื่อแฟ้มและโปรแกรม (Title bar)
เป็นส่วนที่แสดงชื่อของโปรแกรม และชื่อไฟล์เอกสารที่เราเรียกใช้
6.2.2 แท็บ
เป็นส่วนที่แสดงคำสั่งเป็นรายการรายละเอียดที่ต้องเปิดเรียกใช้
6.2.3 แท็บเครื่องมือด่วน (Toolbar)
เป็นส่วนที่แสดงคำสั่งของเวิร์ดที่ใช้บ่อย ๆ โดยแสดงในรูปของปุ่ม รูปภาพ หรือไอคอน โดยปกติจะมีแท็บเครื่องมือมาตรฐาน จัดรูปแบบ และรูปวาด ขึ้นมาให้ก่อน
6.2.4 ไม้บรรทัด (Ruler)
เป็นส่วนที่แสดงมาตราส่วนเช่นเดียวกับไม้บรรทัดทั่วไป เพื่อบอกระยะ ของข้อความในเอกสาร มีทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ใช้ได้ทั้งเป็นนิ้วและเซนติเมตร
6.2.5 ตำแหน่งพิมพ์
เป็นเครื่องหมายที่บอกตำแหน่งการพิมพ์งาน (Cursor)
ตาราง การใช้แป้นพิมพ์ เพื่อเลื่อนหน้าเอกสารหรือตำแหน่งพิมพ์
แป้นพิมพ์
หน้าที่
กดแป้น Home
กดแป้น End
กดแป้น Ctrl + Home
กดแป้น Ctrl + End
กดแป้น Page Up
กดแป้น Page Down
กดแป้น Ctrl + Page Up
กดแป้น Ctrl + Page Down
Iให้ตำแหน่งพิมพ์วิ่งไปต้นบรรทัดเอกสารนั้น
Iให้ตำแหน่งพิมพ์วิ่งไปท้ายบรรทัดเอกสารนั้น
Iให้ตำแหน่งพิมพ์วิ่งไปต้นเอกสารนั้น
Iให้ตำแหน่งพิมพ์วิ่งไปท้ายเอกสารนั้น
Iเลื่อนไปดูเอกสารทีละหน้าจอทางด้านบน
Iเลื่อนไปดูเอกสารทีละหน้าจอทางด้านล่าง
Iเลื่อนไปดูเอกสารทีละหน้าเอกสารทางด้านบน
Iเลื่อนไปดูเอกสารทีละหน้าเอกสารทางด้านล่าง
6.2.6 แท็บสถานะ (Status bar)
เป็นส่วนที่แสดงการใช้งานเอกสารขณะนั้น ในบางภาวะการทำงาน ส่วนนี้จะแสดงคำอธิบายการทำงานให้ทราบด้วย
6.2.7 เลือกวิธีเรียกดู
เป็นเครื่องมือหรือปุ่มที่ใช้ในการเรียกดูเอกสารตามที่ต่าง ๆ ที่จะเลือก

รูป แสดง วิธีต่าง ๆ ในการเลือกใช้ปุ่มคำสั่งเรียกดูเอกสาร
6.2.8 มุมมองต่าง ๆ
เราสามารถใช้แท็บมุมมอง และกลุ่มคำสั่งต่าง ๆ บน Ribbon หรือใช้แถบ สถานะทางมุมล่างขวามือ

6.3 การใช้แท็บคำสั่งหรือเมนูลัดคำสั่ง
เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word 2007 ขึ้นมาพิมพ์งานเอกสาร จะสามารถใช้ แท็บคำสั่งได้ ดังต่อไปนี้
6.3.1 การเรียกใช้จากแท็บเครื่องมือ Ribbon
เมื่อเปิดโปรแกรมมา จอยู่ที่แท็บหน้าแรก ให้คลิกแท็บที่ต้องการทำงาน หรือเมื่อมีงานบางงาน จะมีแท็บบริบท เกิดขึ้นมาเอง
 รูปแสดง รูปแบบแท็บบริบท
สำหรับการเรียกใช้แท็บ สามารถเรียกใช้ได้ทั้งจากเมาส์และแป้นพิมพ์ ดังต่อไปนี้
6.3.1.1 การใช้แป้นพิมพ์ ให้กดแป้น Alt พร้อมกับคีย์ที่แสดงขึ้นมา

รูป แสดง การใช้แป้นพิมพ์เรียกคำสั่ง
6.3.1.2 การใช้เมาส์ ให้คลิกที่ชื่อแท็บ ที่ต้องการใช้ แล้วคลิกเลือกรายการ คำสั่งในกลุ่มคำสั่งของแท็บนั้น
1) แท็บหน้าแรก เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ใน การจัดรูปแบบของข้อความในเอกสาร ได้แก่ คลิปบอร์ด แบบอักษร ย่อหน้า ลักษณะ การแก้ไข เป็นต้น

รูปแสดง แท็บหน้าแรก
2) แท็บแทรก เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ในการ แทรก ได้แก่ หน้า ตาราง ภาพประกอบ ภาพเชื่อมโยง หัวกระดาษและท้ายกระดาษ เป็นต้น

รูป แสดง แท็บแทรก
3) แท็บเค้าโครงหน้ากระดาษ เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวม กลุ่มคำสั่งที่ใช้ในการแทรก ได้แก่ ชุดรูปแบบ ตั้งค่าหน้ากระดาษ พื้นหลังของหน้า ย่อหน้า จัดเรียง เป็นต้น

รูปแสดง แท็บเค้าโครงหน้ากระดาษ
4) แท็บการอ้างอิง เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ใน การแทรก ได้แก่ สารบัญ เชิงอรรถ ข้อมูลอ้างอิงและบรรณานุกรม คำอธิบายภาพ ดัชนี เป็นต้น

รูป แสดงแท็บอ้างอิง
5) แท็บการส่งจดหมาย เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ ใช้ในการแทรก ได้แก่ สร้าง เริ่มจดหมายเวียน เขียนและแทรกเขตข้อมูล แสดงตัวอย่างผลลัพธ์ เสร็จสิ้น เป็นต้นดังรูป

รูปแสดง แท็บการส่งจดหมาย
6) แท็บตรวจทาน เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ใน การแทรก ได้แก่ การพิสูจน์อักษร ข้อคิดเห็น การติดตาม การเปลี่ยนแปลง เปรียบเทียบ ป้องกัน เป็นต้นดังรูป

รูป แสดง แท็บตรวจทาน
7) แท็บมุมมอง เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ใน การแทรก ได้แก่ มุมมองเอกสาร แสดง/ซ่อน ย่อ/ขยาย หน้าต่าง แมโคร เป็นต้นดังรูป

รูปแสดง แท็บมุมมอง

8) แท็บบริบท เป็นแท็บเครื่องมือที่รวบรวมกลุ่มคำสั่งที่ใช้ในการ แทรก ได้แก่ ปรับ ลักษณะ พิเศษเงา เส้นขอบ จัดเรียง ขนาด เป็นต้นดังรูป

รูป แสดงแท็บบริบท
6.3.2 การแสดงชื่อปุ่มบนแท็บ
เป็นการแสดงชื่อปุ่ม ไอคอนบนแท็บหรือแสดงให้เห็นว่าใช้ทำอะไร โดยให้เลื่อนตัวชี้ของเมาส์ไปยังไอคอนนั้นแล้วทิ้งไว้สักครู่ จะปรากฏคำอธิบายชื่อไอคอนนั้นขึ้น

รูป การแสดงชื่อปุ่มไอคอนบนแท็บ
6.3.3 การแสดงและซ่อน แท็บ
โดยทั่วไปแท็บเครื่องมือต่าง ๆ จะมีมากับโปรแกรมให้เราใช้งาน เรา สามารถซ่อนเก็บไว้ได้ โดยเปิดเมนูท้ายแถบเครื่องมือด่วน เลือกรายการ Ribbon ย่อ ให้เล็กสุด เวลา
 
รูป แสดง การใช้คำสั่งซ่อน/แสดงแถบ Ribbon
6.3.4 การเรียกใช้เมนูลัด
การเปิดเมนูลัด สามารถเรียกใช้ได้ทั้งจากเมาส์และแป้นพิมพ์ โดยคลิก เมาส์ที่ปุ่มขวาหรือกดแป้น Shift + F10 ก็ได้ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เรียกใช้ เช่น การแก้ไข คำผิด การเรียกใช้ทั่วไป เป็นต้น

รูป แสดง การเรียกเมนูลัดทั่วไป
6.4 การใช้แถบเครื่องมือด่วน
เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word 2007 ขึ้นมาพิมพ์งานเอกสาร หากต้องการใช้ คำสั่งอย่างรวดเร็ว และเป็นคำสั่งสำคัญ ๆ จะใช้ได้ที่แถบเครื่องมือด่วน แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นกับ
6.4.1 การเพิ่มปุ่มบนแถบเครื่องมือด่วนอย่างรวดเร็ว
ให้คลิกปุ่มท้ายแถบเครื่องมือด่วน จะมีรายการที่เป็นชื่อปุ่มคำสั่งบนแถบ เครื่องมือด่วน ให้คลิกเลือกรายการปุ่มคำสั่งที่ต้องการ ก็จะมีเครื่องหมายถูกนำหน้า ถ้าคลิกอีกครั้ง เครื่องหมายถูกจะหายไป ปุ่มคำสั่งก็จะหายไปด้วย

รูป แสดง การเพิ่ม/ลดปุ่มคำสั่งบนแถบเครื่องมือด่วน
6.4.2 การยกเลิกหรือการทำซ้ำกับแถบเครื่องมือด่วน
จากแถบเครื่องมือด่วน เลือกรายการคำสั่งเลิกทำ หรือทำซ้ำ ได้อย่าง รวดเร็ว

รูป แสดง รายการคำสั่งเลิกทำ หรือทำซ้ำบนแถบเครื่องมือด่วน
6.5 การตั้งค่าตัวเลือก (Options)
เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word 2007 ขึ้นมาพิมพ์งานเอกสาร หากต้องการ ปรับแต่งตัวเลือกของส่วนประกอบต่าง ๆ ในโปรแกรม สามารถทำได้โดยคลิกปุ่ม Office จะเปิด กล่องโต้ตอบตัวเลือกขึ้นมา ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะที่สำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
6.5.1 การตั้งค่าขั้นสูง
ในรายการขั้นสูง เช่น ตัวเลือกแก้ไข ตัดคัดลอกวาง ฯลฯ

รูป แสดง รายการขั้นสูง
6.5.2 การตั้งค่าบันทึก
ในรายการบันทึก มีการกำหนดค่าต่าง ๆ เช่น ได้แก่ อนุญาตบันทึกอย่าง รวดเร็ว บันทึกกู้คืนทุก ๆ กี่นาที และบันทึกเป็นไฟล์ชนิดใด ฯลฯ

รูปแสดง รายการบันทึก
6.5.3 การตั้งค่าการสะกดและไวยากรณ์
ในรายการพิสูจน์อักษร มีรายการที่ใช้กันทั่วไปสามารถตั้งค่าได้ เช่น ตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ เมื่อแก้ไขตัวสะกด ฯลฯ

รูป แสดง รายการพิสูจน์อักษร
6.5.4 การตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งแฟ้ม
ในรายการ Add-in จะมีรายการแสดงและจัดการ Add-in ของ Microsoft Office

รูป แสดง รายการ Add-in
6.6 การใช้แท็บมุมมอง (Views)
เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมาพิมพ์งานเอกสาร เราสามารถปรับ มุมมองหน้ากระดาษในแบบต่าง ๆ ได้ โดยคลิกแท็บมุมมอง แล้วเลือกปุ่มคำสั่งมุมมองเอกสาร

รูป แสดงการใช้แท็บมุมมอง
6.6.1 มุมมองเค้าโครงเหมือนพิมพ์
ในแท็บมุมมองเค้าโครงเหมือนพิมพ์ เป็นมุมมองที่แสดงเหมือนเอกสาร จริงที่จะถูกพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดรูปแบบข้อความ ขอบเขตของหน้ากระดาษ การแบ่งคอลัมน์ โดยจะแสดงให้เห็นไม้บรรทัดขณะพิมพ์งานเอกสารด้วย
6.6.2 มุมมองเค้าโครงเว็บ
ในแท็บมุมมองเค้าโครงเว็บ เป็นการแสดงเอกสารในลักษณะของเว็บ เพจ
6.6.3 มุมมองเค้าร่าง
ในแท็บมุมมอง เป็นมุมมองที่เลือกได้ว่า จะให้แสดงเฉพาะหัวเรื่องหลัก หัวเรื่องย่อย โดยตัดเนื้อความในหัวเรื่องออก หรือ อาจให้แสดงครบทั้งหมดก็ได้ ดังรูป

รูป แสดงหน้ากระดาษแสดงมุมมองแบบเค้าร่าง
ปุ่มคำสั่งต่าง ๆ ในมุมมองเค้าร่าง ได้แก่
ปุ่มเลื่อนขั้น เป็นปุ่มเลื่อนลำดับขั้นหัวเรื่องที่เลือกไว้ ขึ้น 1 ขั้น
ปุ่มลดขั้น เป็นปุ่มเลื่อนลำดับขั้นหัวเรื่องที่เลือกไว้ ลง 1 ขั้น
ปุ่มลดขั้นเป็นเนื้อความ เป็นปุ่มเปลี่ยนหัวเรื่องให้เป็นเนื้อความ
ปุ่มย้ายขึ้น เป็นปุ่มย้ายส่วนที่เลือกไว้ขึ้นไปไว้เหนือหัวเรื่องห่อนหน้านั้น
ปุ่มย้ายลง เป็นปุ่มย้ายส่วนที่เลือกไว้ ลงไปไว้ใต้หัวเรื่องถัดไป
ปุ่มขยาย เป็นปุ่มแสดงหัวเรื่องย่อย หรือเนื้อความในหัวเรื่องหลัก
ปุ่มยุบ เป็นปุ่มซ่อนหัวเรื่องย่อยหรือเนื้อความในหัวเรื่องหลัก
6.2.4 มุมมองแบบแมปเอกสาร
ในแท็บมุมมองแบบแมปเอกสาร เป็นมุมมองที่แสดงหัวข้อใหญ่และหัวข้อ ย่อย โดยมีสัญลักษณ์ + และ – ที่จะให้แสดงและไม่แสดงหัวข้อย่อย อยู่ทางด้านซ้ายของเอกสาร

รูป แสดง หน้ากระดาษแสดงมุมมองแบบแมปเอกสาร
6.2.5 แท็บมุมมองแบบเต็มจอ
ในแท็บมุมมองแบบเต็มจอ เป็นมุมมองที่แสดงแบบเค้าร่างเต็มจอภาพ และ เมนูจะถูกซ่อนไว้ด้านบน

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีการใช้โปรแกรมต่างๆ





1. สร้างไฟล์ใหม่ แล้วใช้  ถมพื้นหลังให้เป็นสีดำ
2. ใช้  เขียนตัวอักษรด้วยสีขาว
3. ใช้คำสั่ง Layer>Rasterize>Layer เปลี่ยน Layer ตัวอักษรเป็น Layer ธรรมดา
4. ใช้คำสั่ง Select>Color Range เลือกส่วนที่เป็นสีขาว
5. ใช้คำสั่ง Select>Modify>Contact ปรับค่าเป็น 1 กด OK แล้วกดปุ่ม Delete (บน Keyboard) เนื้อในของตัวอักษรจะ ถูกตัดออกไป
6. Copy Layer โดยการลาก Layer ไปที่ไอคอน new Layer
7. ใช้คำสั่ง Filter>Blur>Gussian Blur แล้วปรับค่าเป็น 2
8. Copy Layer ที่ทำการ Blur ออกมาเป็น 3 Layer จะทำให้สว่างมากขึ้น
9. ในขั้นตอนนี้เรายังไม่สามารถปรับสีด้วย Color Balance ได้ ดังนั้นเราต้องปรับโหมดสีให้เป็น Gray Scale ก่อน แล้วค่อยปรับกลับมาเป็น RGB (Fletten Image ด้วย)
10. ในขั้นตอนสุดท้าย ให้ใช้ Image>Adjust>Color Balance ปรับสีเอาตามใจชอบ 


คู่มือการใช้งาน program desktop author

<< ทำหนังสือ Electronic เปิดหน้าได้โดยใช้ Desktop Author กันครับ >> 
เขียนโดย คุณ Please Remember / IT-Thai.net
 
หลังจาก Setup เสร็จ เรียกโปรแกรมขึ้นมาจะพบกับหน้าตาโปรแกรม ดังรูป



รายละเอียดของตัวโปรแกรม



1. New ใช้สำหรับการสร้างงานใหม่
2. Open ใช้สำหรับเปิดงานที่มีอยู่แล้วเพื่อดูหรือแก้ไข
3. Save ใช้สำหรับบันทึกไฟล์งานที่ได้ทำขึ้น
4. Page ใช้สำหรับชมตัวอย่าง (Preview) งานที่ได้ทำขึ้นมา
5. Package (EXE) ใช้บีบอัดไฟล์งานทั้งหมดที่ทำขึ้นมาให้รวมเป็นไฟล์เดียวโดยมีนามสกุลเป็น .EXE
6. Package (DNL) ใช้บีบอัดไฟล์งานทั้งหมดที่ทำขึ้นมาให้รวมเป็นไฟล์เดียวโดยมีนามสกุลเป็น .DNL สำหรับการทำเวบไซด์
7. Package (DRM) ใช้ป้องกันไฟล์งานทั้งหมดที่ทำขึ้นมาเพื่อนำเสนอในเวบไซด์ไฟล์เดียวโดยมีนามสกุลเป็น .DRM
8. Package (SCR) ใช้ในการทำ Screen Saver
9. Publish ใช้สำหรับใส่ไฟล์ DNL ลงในเวบไซด์
10. Upload ใช้สำหรับ Upload ไฟล์ที่ได้ทำขึ้นเวบไซด์
11. Multimedia ใช้ในการแทรกไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือ มิวสิควีดีโอ หรือ ภาพยนตร์ สนับสนุนไฟล์นามสกุล .swf, .wma, .wav เป็นต้น
12. Eazyform ใช้ในการแทรกคำถาม คำตอบ และเพิ่ม Object ต่างๆลงในงาน
13. Refresh ใช้สำหรับ Refresh งานที่ทำ
14. Properties ใช้ตั้งค่าต่างๆของ งานที่ทำ
15. Template ใช้เลือกรูปแบบต่างๆ ให้กับชิ้นงาน
16. Buttons ใช้เลือกปุ่มต่างๆที่จะให้มีในงานของเรา




รู้จักรูปร่างหน้าตาของโปรแกรมกันแล้ว ต่อไปเราจะมาลองทำหนังสือ Electronic

เปิดโปรแกรม Desktop Author ขึ้นมา เลือก New



จะขึ้นหน้าต่าง Book Properties เซตค่าตามต้องการเลยครับ หรือจะเอาค่าที่ โปรแกรมตั้งไว้ก็ได้ครับ



1. Width : เลือกความกว้างของหนังสือ
2. Height : เลือกความสูงของหนังสือ
3. Border Colour : เลือกสีของขอบหนังสือ
No Border : เลือกว่าจะให้หนังสือมีขอบหรือไม่มี ถ้าให้หนังสือมีขอบให้เอาเครื่องหมายถูกออก
4. Paper Colour : เลือกสีของหน้ากระดาษ
5. Mask Colour : เลือกสีที่ใช้สำหรับการทำรูปให้โปร่งใส
6. Background Colour : เลือกสีพื้นหลัง
7. Character Set : เลือกภาษาที่ใช้
8. Text default left : เลือกขนาดความห่างของกล่องข้อความกับขอบกระดาษทางซ้ายมือ
9. Text default top : เลือกขนาดความห่างของกล่องข้อความกับขอบกระดาษด้านบน
10. Text default width : เลือกขนาดความกว้างของกล่องข้อความ
11. Text default height : เลือกขนาดความสูงของกล่องข้อความ
12. Start with tooltip auto update : เปิดหนังสือพร้อมอับเดทเคล็ดลับเครื่องมือ
13. Auto Start : เปิดหนังสือโดยให้หนังสือเปลี่ยนหน้าอัตโนมัติ
14. Start with background windows : เปิดหนังสือพร้อมฉากหลัง
15. Disable Print Function : สามารถ พริ๊นท์ ฟังก์ชั่นได้
16. Page Turn : ปรับค่าการเปลี่ยนหน้ากระดาษ
17. Fly Speed : เลือกความเร็วในการเปลี่ยนหน้ากระดาษ
18. Start Status : เลือกว่าจะให้มีเมนูบนหนังสือหรือว่าไม่มี
19. DWB Go To : เลือกสไตล์ในการใช้ ฟังก์ชั่น Go To
20. Default Unicode Value : เลือกค่ายูนิโค้ดพื้นฐาน
21. With/Without Password : เลือกว่าจะให้หนังสือมี Password หรือไม่
22. Book Password : .ใส่ Password หนังสือ
23. Book Backup File : เลือกว่าจะให้มีไฟล์ Backup หนังสือกี่ไฟล์
24. Disable Send Mail Function : สามารส่ง Email ได้
25. Disable SaveAs Function : สามารถเซฟได้
26. Book Transparency : เซตค่าต่างๆในการทำปกหนังสือ
27. Book DRM : เซตค่าการป้องกันต่างๆ
28. Book Email : เซตค่า Email สำหรับหนังสือ
29. Book Multimedia : เซตค่า มัลติมีเดียสำหรับหนังสือ จัดการทำหนังสือตามแบบฉบับของคุณๆครับ ส่วนในตัวอย่างผมเริ่มจาก การแบ่งหน้ากระดาษ ครับ โดยการเลือกที่ Buttons > 3D_Spines หรือ Dividers



จะมี Dialog Box ขึ้นมาให้เราเลือกรูปแบบของตัวแบ่งหน้ากระดาษครับ แล้วกด Use



นำมาจัดไว้กึ่งกลางของหน้ากระดาษครับ (ใครจะไม่แบ่งหน้ากระดาษ หรือจะหารูปอื่นมาเป็นตัวแบ่งแทนก็ได้นะครับ Up to You)



ทำการใส่รูปภาพลงไปเพื่อทำปกครับ เลือกที่กล่อง Insert เครื่องมือหรือจะเลือกที่ Insert > Image ก็ได้ครับ



จะมี Dialog Box ขึ้นมาให้ทำการเลือกภาพครับ



ได้รูปที่ต้องการแล้วก็ใส่ลงไปในหนังสือของเราได้เลยครับ ปรับขนาดตามความเหมาะสม



จะทำให้เป็นปกได้โดยสมบูรณ์ จะต้องทำให้หน้าหนังสือฝั่งซ้ายมือหายไปโดยการเลือก Tools > Book Transparency



จะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมาที่หัวข้อ Eazy Cover Shape ให้ใส่เครื่องหมายถูกหน้า With Transparency แล้วเลือก Select ดังรูป เพื่อปรับสี (หรือจะใช้สีเดิมที่โปรแกรมมีให้ก็ได้) แล้วกด OK



จากนั้นให้เลือกที่กล่องเครื่องมือ Insert Box หรือเลือกที่เมนู Insert > Box



จะปรากฏ Dialog Box สีขึ้นมาให้เราเลือกสีเดียวกับที่เราได้กำหนดไว้ใน Transparent Colour



จะเห็นกล่องสีเพิ่มเข้ามาในหน้าหนังสือของเรา ดังรูป



จัดการขยายกล่องสีให้เต็มหน้ากระดาษของเรา เพื่อจะทำให้กลายเป็นวัตถุโปร่งใสก็จะได้หน้าปกหนังสือขึ้นมาแล้ว



ต่อมาเราจะมาทำเนื้อหาของหนังสือกัน โดยการเลือก กล่องเครื่องมือ Page เลือก Add page หรือ เมนู Insert > Page จะได้หน้าใหม่ขึ้นมา ให้เราเว้นหน้านี้ไว้เพื่อทำสารบัญในตอนท้าย ให้เรา Add หน้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งหน้า ถึงตอนนี้เราจะมีหนังสือทั้งหมด 3 แผ่น รวมปกด้วย



เมื่อเราเพิ่มหน้ากระดาษใหม่มาให้เราทำเนื้อหาในกระดาษแผ่นที่ 3 โดยการใส่สิ่งต่างๆที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็นรูป ข้อความ เสียงเพลง หรือ มิวสิควีดีโอ ในตัวอย่างผมจะทำการใส่รูป เนื้อเพลง และ เพลง ในกระดาษแผ่นนี้นะครับ เริ่มจากการแบ่งหน้ากระดาษก่อนแล้วตามด้วยการใส่รูปโดยการ Insert > Image



ต่อมาก็ทำการใส่สีพื้นให้กับหน้ากระดาษครับ โดยถ้าเราต้องการให้หนังสือเราทั้งเล่มมีหน้ากระดาษเป็นสีเดียวกันหมดให้ เลือกที่ File > Book Properties แล้วเปลี่ยนสีหน้ากระดาษที่ Paper Colour หากต้องการให้หน้ากระดาษที่เรากำลังทำเปลี่ยนสีเพียงหน้าเดียวให้เลือก Insert > Box เลือกสีตามใจชอบแล้วขยายปิดให้หมดทั้งหน้ากระดาษ จะได้ดังรูป



ต่อมาให้ กดคลิกขวาที่หน้ากระดาษเลือก Send to bottom เพื่อให้กล่องสีที่เราเลือกมาลงไปอยู่ด้านล่างภาพและข้อความที่เราได้ ใส่ไว้ในหน้ากระดาษ



จะปรากฏภาพที่เราได้ใส่ไว้ในตอนแรกขึ้นมาครับ



ทีนี้มาถึงการใส่ข้อความลงในหน้ากระดาษของเรานะครับ ให้เลือกที่กล่องเครื่องมือ Insert หรือ เลือกที่เมนู Insert > Text



จะปรากฏ Dialog Box กล่องข้อความออกมา ให้พิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป เมื่อพิมพ์ถ้าปรากฏข้อความเป็นภาษาต่างดาว เหมือนดังรูป



ให้แก้ไขโดยการทำ แถบไฮไลท์ ที่ข้อความของเรา แล้วเปลี่ยนค่าที่ช่องภาษาจาก THAI เป็น DEFAULT และเปลี่ยน Font เป็น Font ภาษาไทย ข้อความก็จะสามารถอ่านเป็นภาษาไทยได้แล้ว



เมื่อใส่ข้อความเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้ออกมา ดังรูปนี้



เราจะมาใส่เพลงลงไปในหนังสือ ของเรากัน ครับ เลือกที่ กล่องเครื่องมือ Insert หรือเลือกแถบเครื่องมือด้านบน ที่ Multimedia หรือเลือกที่ เมนู Insert > Multimedia จะปรากฏ Dialog Box และ กรอบมัลติมีเดียขึ้นมาดังภาพ



1. Font : เลือก Font
2. Text Colour : เลือกสีตัวอักษร
3. File : ช่องบอกชื่อไฟล์ที่เราใส่ลงในหน้าหนังสือ
4. Embed file inside book : เลือกใส่ไฟล์ลงในหนังสือเลือกที่ Select Multimedia เพื่อใส่ไฟล์ เพลง หรือ Video ที่เราจะใส่ลงไป (รองรับไฟล์ .swf / .wma / .wav )
5. Start play automatically : เลือกให้เพลงเล่นแบบ อัตโนมัติ
6. Loop : เลือกให้เล่นเพลงวนต่อเนื่อง
7. Add/Change image : ใส่รูปภาพ
8. Remove image : เอารูปภาพออก
9. Note Text : กล่องใส่ข้อความ

เลือกใส่ไฟล์เพลงในตัวอย่างผมเลือกไฟล์ Flash



เมื่อเลือกไฟล์เรียบร้อยกด OK ออกมาจะเห็น กรอบมัลติมีเดียอยู่ถ้าเราใส่ไฟล์เพลง ให้เราทำการย่อแล้วนำไปซ่อนไว้ในรูปหรือที่ต่างๆ ของหนังสือ แต่หากเราใส่ไฟล์ Video ให้ทำการขยายกรอบ ตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดภาพ Video ขึ้นในกรอบนั้น



ผมเอาไปแอบไว้ใกล้ๆกะพี่ตูน เลย อิอิ



คราวนี้เราก็มาทำปุ่มเมนูต่างๆ บนหนังสือกัน หุหุ โดยการเลือกที่ แถบเครื่องมือ Buttons ซึ่งมีให้เลือกหลายฟังก์ชั่นมาก เรามาลองทำ ปุ่ม Close เพื่อใช้ในการออกจากการดูหนังสือ หรือ ปิดนั่นเอง เลือกที่ Buttons > Close



จะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมาให้เราเลือกรูปแบบ ก็เลือกกันได้ตามใจชอบครับ



หรือหากเราไม่ชอบใจกับรูปแบบที่ให้มานั้น ก็สามารถ Insert รูปของเรามาแทนได้ครับ
ในตัวอย่างผมได้ทำรูปแบบขึ้นมาเอง แล้ว Insert เข้ามาครับเสร็จแล้วจัดวางตำแหน่งให้เรียบร้อย



มาถึงตอนนี้ปุ่ม Close ที่เราใส่เข้าไปจะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าเราจะใส่ค่าให้กับมันโดยการ คลิกที่ตัวรูปภาพปุ่ม แล้วเลือกกล่องเครื่องมือ Change หรือ คลิกขวาที่รูปภาพปุ่มแล้ว เลือก Change Link



จากนั้นจะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมาให้เลือกค่าต่างๆ ในที่นี่เราทำปุ่ม Close หรือ ปุ่มปิด ให้เลือกค่าที่ CloseWindow



หลังจากนั้นจะใส่ปุ่มอะไรเพิ่มเติมก็แล้วแต่คุณแล้วเลือกเซตค่าตามใจชอบครับ หรือใครจะเพิ่มหน้าหนังสือก็ตามสบายครับ มาพูดถึงสิ่งที่ค้างไว้คือ สารบัญครับ ให้เราย้อนกลับไปที่หน้า 2 ที่เราข้ามาในตอนแรกครับโดยเลือกกล่องเครื่องมือ Page หรือ เมนู Control > Previous Page ครับ




ก็จะกลับมาที่หน้า 2 ที่เราข้ามไปซึ่งขาวสะอาดหมดจดเพราะเรายังไม่ได้ทำอะไร ครับ ทีนี้ก็มาเริ่มทำสารบัญ โดยการแบ่งหน้ากระดาษใส่รูป ใส่ไฟล์ต่างๆ ตามใจชอบครับ



หลังจากนั้นก็มาทำหัวเรื่องครับ (สารบัญ) จะใช้วิธีพิมพ์ใน Text Box หรือนำภาพมาใส่ก็ได้ครับ พอได้หัวเรื่องเสร็จ ก็มาทำเมนูสารบัญกันต่อครับ โดยจะใช้การ ทำปุ่มกด หรือ การ Insert ภาพมาใส่ก็ได้ครับ



พอเราได้ภาพที่จะมาทำเป็น ปุ่มเพื่อกดสำหรับโยงไปหน้าที่เราต้องการก็จัดวางตำแหน่งแล้ว คลิกขวาที่ภาพเพื่อใส่ฟังก์ชั่น Change Link



จะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมาให้เลือกฟังก์ชั่นให้เราเลือก ฟังก์ชั่น Page แล้วจะปรากฏ แถบฟังก์ชั่น ขึ้นมาอีกหนึ่งแทบ ให้เลือก ว่าเราต้องการจะให้ กดปุ่มนี้แล้วโยงไปหาหน้าอะไร ก็คง Concept เดิมครับ เลือกกันตามใจชอบเลย อิอิ





ต่อมาเราก็จะมาทำปกหลังกันนะครับ วิธีการก็เหมือนกับการทำ ปกหน้าอ่ะ ครับ ต่างกัน 2 จุด คือ
1. การใส่รูปจะต้องใส่ด้านตรงกันข้ามกับปกหน้าเสมอ



2. เซตค่า Book Transparency ที่หัวข้อ Easy Back Cover Shape ให้ใส่เครื่องหมายถูกหน้า With Transparency และ เลือกสี ครับ



พอเราทำหนังสือครบทุก หน้าตามที่ต้องการแล้วก็จะถึงขั้นตอนของการ Save ครับในครั้งแรกที่ทำการ Save แนะนำให้ เลือกที่ File > Save As… ครับเพราะถ้าเราคลิกที่ แถบเครื่องมือรูป 

มันจำทำการเซฟลงใน Folder ที่เราเก็บไฟล์ต่างๆ ที่เราใช้ในการทำหนังสือ เช่น เราใช้ไฟล์รูปจาก Drive D มากโปรแกรมจะทำการเซฟงานลงใน Drive D เลยครับ ทำให้ยุ่งยากต่อการจัดการ ดังนั้น ควรเลือก Save As.. แล้วเลือกที่ที่ต้องการ Save งานเก็บไว้ครับ พอเราเซฟงานเสร็จแล้ว ก็จะมาดูหน้าตาหนังสือเราว่าเป็นอย่างไร โดยการเลือกที่ แถบเครื่องมือ Package หรือ File > Package EXE ครับ



พอเลือก Package EXE โปรแกรมจะทำการรวมข้อมูล พอรวมเสร็จ หนังสือ ของเราก็จะเด้งขึ้นมาให้ได้ชมกัน



หน้าตาหนังสือของเราครับ